แชร์

รู้ทันสายตาสั้นในเด็กเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

อัพเดทล่าสุด: 6 ธ.ค. 2024
600 ผู้เข้าชม

สายตาสั้นในเด็กเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร

ปัจจุบันภาวะสายตาสั้นในเด็กกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่เด็ก ๆ ต้องใช้เวลาอยู่หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ทั้งเพื่อการเรียนและความบันเทิง การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองทุกท่านค่ะ

บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสาเหตุของการเกิดสายตาสั้นในเด็ก อาการที่ควรสังเกต รวมถึงวิธีการรักษาและป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูก ๆ มีสุขภาพตาที่ดีและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขค่ะ

เด็กสายตาสั้น สาเหตุเกิดมาจากอะไร?

ภาวะสายตาสั้นในเด็กเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบันค่ะ โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจากทั้งปัจจัยทางพันธุกรรมและพฤติกรรมการใช้สายตา หากคุณพ่อคุณแม่มีประวัติสายตาสั้น ลูกก็มีโอกาสที่จะเป็นสายตาสั้นได้มากขึ้น นอกจากนี้ การที่เด็กใช้เวลาอยู่หน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้นได้เช่นกันค่ะ

ในทางการแพทย์ เราพบว่าเด็กที่ใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานาน และไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสายตาสั้นได้มากกว่าเด็กทั่วไป การที่เด็กได้รับแสงแดดและมองวัตถุในระยะไกลบ้างจะช่วยชะลอการเกิดสายตาสั้นได้ค่ะ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมในการใช้สายตา เช่น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ หรือท่าทางในการอ่านหนังสือที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสายตาของเด็กเช่นกันค่ะ

อาการของภาวะสายตาสั้นในเด็ก

เมื่อเด็กมีภาวะสายตาสั้น จะมีอาการที่สังเกตได้หลายอย่างค่ะ เช่น มักจะหรี่ตาเวลามองไกล ชอบส่ายหน้าเข้าใกล้จอโทรทัศน์หรือนั่งใกล้กระดานดำในห้องเรียน บางครั้งอาจมีอาการปวดตา ปวดศีรษะ หรือเมื่อยล้าตาได้ค่ะ

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมเอาหนังสือเข้ามาใกล้ตามากๆ ขณะอ่าน หรือถือแท็บเล็ตใกล้ตาเกินไป บางครั้งอาจมีการขยี้ตาบ่อยๆ หรือบ่นว่ามองเห็นภาพไม่ชัดเจนค่ะ

ที่สำคัญ หากเด็กมีอาการเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยนะคะ ควรพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวัดสายตาและรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้สายตาสั้นมากขึ้นและส่งผลต่อการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวันของลูกได้ค่ะ

เด็กสายตาสั้น มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

การรักษาภาวะสายตาสั้นในเด็กนั้นมีหลายวิธีค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและความเหมาะสมแตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับลูกมากที่สุด โดยวิธีการรักษาหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีดังนี้ค่ะ

1. ลดพฤติกรรมการใช้สายตามองใกล้

การลดพฤติกรรมการใช้สายตามองใกล้เป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญมากค่ะ แนะนำให้เด็กๆ พักสายตาทุก 20 นาทีหลังจากใช้สายตามองใกล้ โดยให้มองไกลออกไปที่ระยะ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เราเรียกว่ากฎ 20-20-20 ค่ะ

นอกจากนี้ ควรจำกัดเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสมตามวัยค่ะ สำหรับเด็กเล็กแนะนำให้ใช้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และควรส่งเสริมให้เด็กๆ ทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมงค่ะ

ที่สำคัญคือการจัดสภาพแวดล้อมในการใช้สายตาให้เหมาะสม เช่น จัดให้มีแสงสว่างเพียงพอ ระยะห่างระหว่างตากับหนังสือหรือจอควรอยู่ที่ประมาณ 30-40 เซนติเมตร และควรนั่งในท่าที่ถูกต้อง ไม่ก้มหรือเงยจนเกินไปค่ะ

2. ใส่แว่นหรือเลนส์ชะลอสายตาสั้น

การใส่แว่นหรือเลนส์ชะลอสายตาสั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมภาวะสายตาสั้นในเด็กค่ะ ปัจจุบันมีเลนส์หลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือเลนส์มัลติโฟคัล ที่ช่วยชะลอการเพิ่มของค่าสายตาสั้นได้ค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีคอนแทคเลนส์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อชะลอสายตาสั้นโดยเฉพาะ แต่การใส่คอนแทคเลนส์จะเหมาะกับเด็กที่โตพอสมควรและสามารถดูแลความสะอาดได้ดีค่ะ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกชนิดของเลนส์ที่เหมาะสมกับลูกมากที่สุดนะคะ

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ การเปลี่ยนแว่นตาหรือเลนส์ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ และควรตรวจวัดสายตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้ใช้แว่นหรือเลนส์ที่เหมาะสมกับค่าสายตาปัจจุบันค่ะ

3. ใช้ยาหยอดตา

การใช้ยาหยอดตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่แพทย์อาจพิจารณาใช้ในการรักษาภาวะสายตาสั้นในเด็กค่ะ โดยยาที่นิยมใช้คือยาหยอดตาอะโทรปีน ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสามารถช่วยชะลอการเพิ่มของค่าสายตาสั้นได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม การใช้ยาหยอดตาจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์อย่างใกล้ชิดนะคะ เพราะยาอาจมีผลข้างเคียง เช่น แสบตา ตาไวต่อแสง หรือม่านตาขยาย คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกและพาไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอค่ะ

สำหรับระยะเวลาในการใช้ยาจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ โดยจะประเมินจากอายุของเด็ก อัตราการเพิ่มของค่าสายตา และการตอบสนองต่อการรักษาเป็นหลักค่ะ บางรายอาจต้องใช้เวลารักษานานหลายปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับการรักษาค่ะ

4. คอนแทคเลนส์

การใช้คอนแทคเลนส์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสายตาสั้นค่ะ แต่หมอแนะนำว่าควรใช้เมื่อเด็กโตพอและมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาความสะอาดที่ดีแล้วนะคะ โดยทั่วไปเด็กควรมีอายุอย่างน้อย 12 ปีขึ้นไปค่ะ

สำหรับคอนแทคเลนส์ที่ใช้ในการชะลอสายตาสั้น มีทั้งแบบใส่กลางวันและแบบใส่ตอนนอน (Ortho-K) ค่ะ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกประเภทที่เหมาะสมกับลูกมากที่สุดค่ะ

สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้คอนแทคเลนส์คือการรักษาความสะอาดและการใช้งานอย่างถูกวิธีค่ะ หมอจะสอนวิธีการใส่และถอดเลนส์ วิธีทำความสะอาด รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกเข้าใจอย่างละเอียดค่ะ

วิธีการป้องกันอย่างไร? ไม่ให้ลูกเราเป็นเด็กสายตาสั้น

การป้องกันภาวะสายตาสั้นในเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะการที่คุณพ่อคุณแม่ละเลยเรื่องนี้ไป อาจส่งผลให้ลูกมีค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ

1. จำกัดเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

หมอแนะนำให้จำกัดเวลาการใช้หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต หรืคอมพิวเตอร์ค่ะ โดยเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้เลย ส่วนเด็กอายุมากกว่า 2 ปี ควรใช้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวันค่ะ

2. ตรวจสุขภาพตา

หมอแนะนำให้พาลูกไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำค่ะ โดยควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุประมาณ 3-4 ปี และหลังจากนั้นควรตรวจทุก 6 เดือนถึง 1 ปีค่ะ การตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบปัญหาสายตาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และสามารถให้การรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ

3. ส่งเสริมกิจกรรมกลางแจ้ง

การให้เด็กได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมงเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ เพราะแสงแดดและการมองในระยะไกลจะช่วยชะลอการเกิดสายตาสั้นได้ค่ะ หมอแนะนำให้พาลูกไปเล่นในสวนสาธารณะ หรือทำกิจกรรมกีฬากลางแจ้งที่เหมาะสมกับวัยค่ะ

4. จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

การจัดสภาพแวดล้อมในการอ่านหนังสือหรือทำการบ้านให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ควรมีแสงสว่างเพียงพอ จัดระยะห่างระหว่างตากับหนังสือประมาณ 30-40 เซนติเมตร และแนะนำให้นั่งในท่าที่ถูกต้อง ไม่ก้มหรือเงยจนเกินไปค่ะ

5. ให้พักสายตาสม่ำเสมอ

หมอแนะนำให้ใช้กฎ 20-20-20 คือ ทุกๆ 20 นาทีที่ใช้สายตาในระยะใกล้ ให้มองไกลออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาทีค่ะ วิธีนี้จะช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาได้ดีค่ะ

5. ดูแลโภชนาการ

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตาก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ อาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินซี และสังกะสี จะช่วยบำรุงสายตาได้ดี เช่น ผักใบเขียว แครอท ไข่ ปลา และผลไม้ต่างๆ ค่ะ

ตรวจเช็กสุขภาพดวงตาอย่างแม่นยำได้ที่ Dr.Ouise Eye Clinic


ที่คลินิกของเรา คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกมาตรวจสุขภาพตาได้อย่างอุ่นใจค่ะ เรามีทีมนักทัศนมาตรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพตาเด็กโดยเฉพาะ พร้อมด้วยเครื่องมือตรวจตาที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ทำให้สามารถวินิจฉัยปัญหาสายตาได้อย่างแม่นยำค่ะ

นอกจากนี้ เรายังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสายตาของลูกอย่างละเอียด ทั้งเรื่องการปรับพฤติกรรมการใช้สายตา การเลือกแว่นที่เหมาะสม และวิธีการป้องกันไม่ให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการค่ะ

 

สนใจรับบริการและติดต่อสอบถามได้ที่

สรุป

สุดท้ายนี้ หมออยากจะย้ำว่าการดูแลสายตาของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะสายตาเป็นอวัยวะที่มีค่า และการป้องกันดีกว่าการรักษานะคะ คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มดูแลสายตาของลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการจำกัดเวลาการใช้หน้าจอ ส่งเสริมการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และพาลูกมาตรวจตาอย่างสม่ำเสมอค่ะ

หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสายตาของลูก สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ Dr.Ouise Eye Clinic เราพร้อมให้คำแนะนำและดูแลสุขภาพตาของลูก ๆ ทุกคนอย่างดีที่สุดค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy