Eye health สุขภาพตา

ตรวจสุขภาพตาเหมาะกับใครบ้าง

เด็ก

เด็กเป็นวัยที่ควรได้รับการตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียดเป็นประจำทุกปี เพราะเด็กมักไม่รู้ว่าสุขภาพตาหรือค่าสายตาปกติเป็นอย่างไร หากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สังเกตและปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาได้ เช่น สายตายาวแต่กำเนิด ตาเหล่ ตาเข และตาขี้เกียจ การรู้ถึงสุขภาพตาช่วยป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที เมื่อเด็กมีการมองเห็นที่ดีจะส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีตามไปด้วย

วัยรุ่น วัยทำงาน

ในยุคดิจิทัลที่วัยรุ่นและวัยทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนาน ๆ เนื่องจากเรียน ทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็อาจส่งผลกระทบต่อสายตาและสุขภาพตาโดยไม่รู้ตัว เพราะหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น หน้าจอคอม หน้าจอมือถือ มีแสงสีฟ้าอมม่วงที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง จนถึงจอประสาทตาเสื่อม จึงควรตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป เสี่ยงเป็นโรคตาตามอายุที่มากขึ้นด้วย รวมถึงเริ่มมีปัญหาสายตายาวตามวัย

ผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงเป็นโรคตา เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม ต้อหิน วุ้นในตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม และมักมีปัญหาสายตายาวตามอายุ มองเห็นไม่ชัดในระยะใกล้จนถึงระยะไกล เนื่องจากอายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายเกิดการเสื่อมสภาพ สุขภาพตาและสายตาไม่ดีเหมือนเดิม อีกทั้งโรคตาดังที่กล่าวมายังส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดถาวรได้ การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนช่วงวัยนี้

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคตา

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ทำให้คนทุกช่วงอายุ เสี่ยงเป็นโรคตาและมีปัญหาทางสายตา จึงควรได้รับการตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน ได้แก่

• ปัญหาสายตาสั้นที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ต้อหิน
• โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดัน
• ยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อดวงตา เช่น ยาโรคซึมเศร้า โบท็อก
• ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
• ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอม หน้าจอมือถือ ที่ต้องใช้สายตามาก

รายการตรวจวัดสายตาเเละสุขภาพตา

1.Visual acuity ตรวจระดับการมองเห็นโดยการอ่านตัวเลข

2.Auto refractometer ตรวจวัดค่าสายตาโดยเครื่องอัตโนมัติ

3.Phoropter ตรวจวัดค่าสายตาอย่างละเอียด

4.Anterior segment examination ตรวจสุขภาพตาส่วนหน้า เพื่อหาโรคตาต่างๆ

• โรคต้อเนื้อ
• โรคต้อลม
• โรคต้อกระจก
• โรคกระจกตาผิดปกติ ฯลฯ

5.Worth 4 dots ตรวจการรวมภาพของตาทั้งสองข้าง เพราะการมองเห็นที่ดีต้องอาศัยตาสองข้างที่รวมภาพเพื่อส่งไปยังสมองแปลความได้อย่างถูกต้อง

6.Amsler grid test ตรวจประเมินจุดรับภาพหรือความผิดปกติของจอประสาทตาเบื้องต้น

7.Confrontation test ตรวจลานสายตาเบื้องต้น สำหรับผู้ที่สงสัยมีความผิดปกติโรคต้อหิน หรือโรคทางสมอง

8.Extraocular muscles testing ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา เส้นประสาทตา

9.Ishihara test ตรวจหาภาวะตาบอดสีเบื้องต้น

10.Slit lamp ตรวจสุขภาพเชิงลึก

• ส่วนหน้าของลูกตา
• ส่วนหลังของลูกตา

11.Counseling ปรึกษาปัญหาโรคตา

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อตรวจสุขภาพตา ได้ที่

โทร : 090-224-5168

Facebook : Dr.Ouise Eye Clinic